“ดวงตา” อวัยวะสำคัญที่ไม่ควรทำให้เสื่อมสภาพก่อนวัย
ดวงตาของคนเรามีความละเอียดอ่อนและต้องการดูแลเป็นพิเศษ ในยุคที่ผู้คนหันมาสนใจเทคโนโลยี อยู่กับโซเชียลมีเดียหลายชั่วโมงต่อวัน แสงจากทั้งคอมพิวเตอร์และหน้าจอมือถือ ล้วนแล้วแต่ทำร้ายสายตาเราได้โดยไม่รู้ตัว ตามความเชื่อเดิม ๆ ว่า โรคต่าง ๆ ทางดวงตา หรือการเสื่อมสภาพของดวงตานั้นจะเกิดกับคนที่มีอายุมากแล้ว นั่นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะไม่ว่าวัยไหนดวงตาก็สามารถเสื่อมสภาพได้เช่นเดียวกัน ด้วยการทำงาน อ่านหนังสือ การใช้สายตาหนัก ๆ ในกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้ “อายุตา” สูงขึ้นมากกว่าอายุของตัวเรา ดังนั้นเราจึงควรดูแลรักษาดวงตาให้ดีและมีประสิทธิภาพอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ดวงตาคู่เดียวของเรานั้นเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร
ดวงตาแข็งแรงได้ด้วยสารอาหารสำคัญ
หลายคนอาจจะดูแลดวงตาด้วยเครื่องสำอาง สกินแคร์ต่าง ๆ ซึ่งนั่นเป็นเพียงการดูแลจากภายนอกเท่านั้น การบำรุงจากภายในก็สำคัญเพราะธรรมชาติได้สร้างอาหารที่มีประโยชน์ที่ช่วยฟื้นฟูสายตาได้เช่นกัน
ผลวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่าการให้วิตามิน C, E เบต้าแคโรทีน, ธาตุสังกะสี และธาตุทองแดง มีประโยชน์ในการชะลอการเสื่อมมากขึ้นของผู้ป่วยที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป จากการวิจัยของแพทย์ในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศ พบว่า การรับประทานอาหารเสริมที่มีสารอาหารดังต่อไปนี้ มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาได้
วิตามินA
เป็นสารที่ช่วยในการทำงานของจอประสาทตา และมีบทบาทสำคัญในการมองเวลากลางคืน ซึ่งพบมากในผักจำพวก ชะอม คะน้า ยอดกระถิน ตำลึง ผักโขม ฟักทอง
วิตามินB
มีการศึกษาพบว่าวิตามิน B1 และB12 อาจมีบทบาทในการชะลอการเกิดต้อกระจกได้ โดยแหล่งที่มีวิตามินชนิดนี้มาก ได้แก่ ตับ ไข่ เนื้อสัตว์ นมสด เป็นต้น
วิตามิน C
มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ของร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่า อาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกได้อีกด้วย ผลไม้ที่มีวิตามิน C มากได้แก่ ฝรั่ง ส้ม สับปะรด มะขามป้อม เป็นต้น ประเภทผัก ได้แก่ กะหล่ำดอก บร็อคโคลี่ เป็นต้น
วิตามิน E
เป็นวิตามินตัวหนึ่งที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีอยู่ในเซลล์รับแสงที่จอประสาทตา และจากการศึกษาพบว่า อาจมีบทบาทช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกเช่นเดียวกัน พบได้ใน น้ำมันธัญพืช น้ำมันดอกคำฝอย ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น
เบต้าแคโรทีน (Betacarotene)
เป็นสารตั้งต้นของวิตามิน A ซึ่งมีบทบาทในการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเรื่องการมองเห็นในเวลากลางคืนเช่นเดียวกับวิตามิน A พบมากในผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น แครอท มะละกอ ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง ผักบุ้ง เป็นต้น ข้อควรระวังคือการรับประทานเบต้าแคโรทีนในรูปอาหารเสริมมากไปในคนที่สูบบุหรี่จะเพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็งปอดได้
ลูทีน และ ซีแซนทิน (Lutein and Zeaxanthin)
เป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบในจุดรับภาพที่จอประสาทตา และเลนส์ตา มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาพบว่า มีส่วนช่วยในการชะลอการเกิดต้อกระจก และโรคจอประสาทตาเสื่อม พบมากในผักโขม ไข่แดง ข้าวโพด บร็อคโคลี่
ซีลีเนียม (Selenium)
เป็นสารอีกตัวหนึ่งที่ต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก พบได้ใน หอยนางรม หอยลาย ตับไก่ เมล็ดทานตะวัน
สังกะสี(Zinc)
มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และจากการศึกษาพบว่ามีส่วนช่วยในการทำให้จอประสาทตาเสื่อมช้าลง โดยสังกะสีพบมากใน หอยนางรม ตับ เนื้อสัตว์
โอเมก้า 3 (Omega-3)
เป็นกรดไขมันที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาภาวะตาแห้ง ซึ่งพบมากในปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ผลไม้ที่พบได้ เช่น กีวี่ เป็นต้น
ดวงตาก็เป็นอวัยวะที่ออกกำลังกายได้
ไม่ใช่แค่แขน หรือขาเท่านั้นที่ออกกำลังกายได้ แต่ตาก็ออกกำลังกายได้เช่นกัน ! มีวิธีบริหารดวงตามากมาย ดังนี้
1. เปลี่ยนโฟกัส
- จับนิ้วชี้ห่างจากดวงตาของคุณสองสามนิ้ว
- เน้นที่นิ้วของคุณ
- เลื่อนนิ้วของคุณออกจากใบหน้าช้าๆโดยจับโฟกัส
- มองออกไปครู่หนึ่งในระยะทาง
- มุ่งเน้นที่นิ้วที่ยื่นออกมาของคุณและค่อยๆนำกลับมาที่ดวงตาของคุณ
- มองออกไปและโฟกัสไปที่บางสิ่งในระยะไกล
- ทำซ้ำสามครั้ง
2. กฎ 20-20-20
เราไม่ควรมองวัตถุชิ้นเดียวเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องจ้องจอคอมทั้งวัน สำหรับคนที่มีความจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เกือบทุวัน วันละหลายชั่วโมงทุกวัน กฎ 20 - 20 - 20 อาจช่วยป้องกันอาการตาได้ วิธีบริหารตาแบบ 20 - 20 - 20 คือ “ ทุก ๆ 20 นาทีให้มองสิ่งที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุตเป็นเวลา 20 วินาที ”
เคล็ดลับเพื่อสุขภาพตาที่ดี
ถึงแม้ว่าจะรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงดูแลสายตา แต่การรับประทานอาหารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะการบำรุงดูแลสุขภาพตานั้นต้องควบคู่ไปกับการกระทำที่ดูแลดวงตาอย่างดีไปพร้อม ๆ กันด้วย ดังนี้
- พบจักษุแพทย์ทุก ๆ 1 - 2 ปี
- สวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปข้างนอก ปกป้องดวงตาจากการทำลายของรังสี UV ด้วยแว่นกันแดดโพลาไรซ์ที่ป้องกันแสง UVA และ UVB
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- ควบคุมน้ำหนักเพื่อสุขภาพ
- สวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตาเมื่อเล่นกีฬาหรือทำงานที่มีผลกับดวงตา
- ตรวจเช็คน้ำตาลในเลือดสม่ำเสมอ
- กินเพื่อสุขภาพ อาหารที่ดีจะทำให้ดวงตาแข็งแรงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก